พร้อมทำ

เพื่อเมืองเดินหน้า

เมืองขอนแก่นไม่ต้องเริ่มใหม่
แต่ต้องเดินให้ถูกทาง โอกาส
ของเมือง 
เริ่มจากสายตาที่
มองเห็นอนาคต

เดินทางดี

- ไปไหนก็ง่าย

ขอนแก่นต้องเดินได้ ขับได้ ขึ้นรถได้ โดยไม่เสียเวลาและพลังชีวิต

  • ส่งเสริม ฟื้นฟู รถสองแถว ให้ทันสมัย เชื่อมโยงเส้นทางใหม่ ครอบคลุมชุมชน
  • ผลักดัน รถไฟฟ้าขอนแก่น ให้เดินหน้าแบบมีแผนชัด
  • เชื่อมโยงการให้บริการ สองแถว รถเมล์ รถไฟฟ้า
  • ผลักดันให้เกิดการพัฒนา บัสเลน บนถนนสายหลัก ให้รถเมล์ไม่ติดรถส่วนตัว
  • ยกระดับ Shuttle Bus รถรับส่งโรงเรียน ลดรถติดช่วงเร่งด่วน
  • ผลักดันให้เกิดการบริการรับส่ง คนป่วย คนสูงวัย ไปศูนย์แพทย์ โรงพยาบาล
  • ถนน/ฟุตบาท สร้างเร็ว ซ่อมเร็ว หลีกเลี่ยงเทศกาล-เปิดเทอม
  • ควบคุมไฟจราจรด้วย AI ขับรถง่าย เส้นจราจรคมชัด
  • ระบบ Park & Go จอดแล้วจร ลดปัญหารถติดระยะยาวและช่วงเทศกาล

อยู่ดี

- เมืองน่าอยู่ มีบึงสวย น้ำใส
มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

เมืองที่เดินแล้วเย็นใจ ไม่ร้อน ไม่รก ไม่ทิ้งพื้นที่ว่างเปล่า

  • ลดอุณหภูมิ ลดฝุ่น ลดคาร์บอน ด้วยการปลูก ต้นไม้ใหญ่ ให้ร่มเงา ถนนสายหลัก-เกาะกลาง-ทางเท้า-รอบสถานศึกษา
  • เพิ่ม สวนสาธารณะ/ลานกิจกรรม ขนาดเล็กในทุก ๆ ชุมชน
  • พัฒนาบึงทุ่งสร้าง-คลอง-พื้นที่รกร้าง เป็นแหล่งพักผ่อน
  • สวนสาธารณะ และพื้นที่ (Pet Park) สำหรับ สัตว์เลี้ยง อย่างมีระเบียบ
  • ไฟทาง Solar / LED ครอบคลุม
  • Night Park สวนกลางคืนปลอดภัยใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

เรียนดี

- การศึกษาที่ทุกคนเข้าถึงได้

โรงเรียนต้องปลอดภัย อาหารดี ห้องเรียนไม่แพ้โรงเรียนนานาชาติ

  • โรงเรียนเทศบาล มาตรฐานหลักสูตรอินเตอร์ แต่ทุกคนเข้าถึงได้
  • เพิ่ม Smart Alert รถโรงเรียน ผู้ปกครองติดตามบุตรหลานได้
  • ปรับ ห้องเรียนปลอดฝุ่น ด้วยระบบฟอกอากาศ
  • อาหารกลางวันดี ให้เข้าถึงอาหารปลอดภัย โภชนาการดี อิ่มท้องสมองใส
  • ปรับห้องน้ำ/ห้องพยาบาล/ห้องสมุด ให้เป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ
  • สนับสนุน ชมรมสร้างสรรค์ เช่น ดนตรี กีฬา โค้ดดิ้ง หุ่นยนต์
  • พัฒนา IDEA Space เป็นพื้นที่เรียนรู้นอกห้อง (Tiktok/Youtube/Hobby)

ทำมาหากินดี

- เศรษฐกิจไปไกล
รายย่อยเข้าถึงโอกาสได้

คนทำงานได้ เมืองหายใจสะดวก โอกาสถึงคนตัวเล็ก

  • จัดตั้งส่วนงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจเมือง ทำงานเชิงรุกกับภาคธุรกิจ
  • เชื่อมโยงระบบข้อมูลเมืองกับธุรกิจ เพื่อการลงทุนอย่างมีเป้าหมาย
  • ทำงานเชิงรุก เพื่อดึงดูดการค้าการลงทุน
  • ฟื้นย่านเศรษฐกิจด้วย ถนนดี ทางเท้าโอเค ป้ายไม่รกรุงรัง
  • ส่งเสริม เอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ให้ตั้งตัวได้ บ่มเพาะให้เติบโตสู่ตลาดโลก
  • เป็นพี่เลี้ยงสนับสนุนอีเวนต์สร้างสรรค์ และ MICE
  • ส่งเสริมเอกชนให้รวมกลุ่มและพัฒนาย่านเศรษฐกิจได้ด้วยตนเอง

สุขภาพดี

- เมืองที่ดูแลกันทุกวัย

สุขภาพแข็งแรง เมืองก้าวไกล

  • บริการ ตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ ถึงชุมชนเป็นประจำ ตรวจคัดกรอง และป้องกันโรค
  • พัฒนา ฐานข้อมูลสุขภาพเมือง (Medical ID) เชื่อมโรงพยาบาล-เทศบาล
  • ส่งเสริม กิจกรรมออกกำลังกาย ในสวน/ลานคนเมือง
  • จัดตั้ง คลินิกชุมชน/คลินิกเด็ก/คลินิกผู้สูงอายุ และศูนย์กายภาพบำบัด ในศูนย์ชุมชน
  • สร้าง ระบบส่งต่อดูแลผู้ป่วย-คนเปราะบาง แบบครบวงจร
  • ใช้ เทคโนโลยีสุขภาพดิจิทัล เช่น AI ตรวจเบื้องต้น / บัตรสุขภาพ

ช่วยเหลือกันดี

- ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน

“ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง อย่างแท้จริง”

  • ผลักดันให้เกิด Community Center และ Homeless Shelter ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง
  • มีบริการสุขภาพ-กิจกรรมชุมชน ช่วยคนเปราะบาง ช่วยคนไร้บ้าน
  • สร้างแพลตฟอร์ม จิตอาสาให้คนขอนแก่นไม่ทอดทิ้งกัน
  • ระบบดูแล ผู้ป่วยติดเตียง / ผู้ป่วยระยะสุดท้าย (Palliative Care)
  • ฝึกอาชีพ และ ผลักดันกองทุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม
  • พื้นที่สาธารณะต้องรองรับ ผู้พิการ / ผู้สูงอายุ เดินทางได้จริง
  • ทำฐานข้อมูล ครัวเรือนเปราะบาง เพื่อช่วยเหลือตรงจุด
  • ผลักดันให้เข้าถึงการตรวจ HIV และเข้าถึงยา PREP/PEP
  • ผลักดันให้มีหน่วยบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ และฮอร์โมน
  • LGBTQ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ เทศบาล ต้องไม่ถูกเลือกปฏิบัติ, แต่งกายตามเพศสภาพและรสนิยมได้

เมืองกินดี

- อาหารถึงทุกคน

“อิ่มง่าย ราคาเป็นมิตร สะอาดทุกมื้อ”

  • สนับสนุนให้เกิดศูนย์อาหาร (hawker center) ให้คนเมืองเข้าถึงอาหารคุณภาพ ในราคาประหยัด
  • รณรงค์ ตลาดสะอาด-ร้านเข็นสะอาด ทั่วเมือง
  • ตลาดเขียว 4 มุมเมือง เพิ่มพื้นที่อาหารปลอดภัย จากสวนเกษตรสู่โต๊ะอาหาร
  • สนับสนุนช่วยเหลือ ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง ให้มีอาหารจากร้านเครือข่าย
  • สนับสนุน เกษตรในเมือง สวนผักหลังบ้าน-หลังวัด
  • พัฒนา “โรงเรียนอาหารดี” เข้าถึงอาหารปลอดภัย โภชนาการดี อิ่มท้องสมองใส
  • เชื่อมโยงระบบจัดการ Food Waste จากของเหลือคุณภาพดี สู่ผู้ที่ต้องการ

เมืองปลอดภัยดี

- อุ่นใจ เดินได้ทุกเวลา

ชัดเจน สว่าง ปลอดภัย

  • ติด CCTV คุณภาพสูง คมชัด ครอบคลุมจุดเสี่ยง เปิดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้
  • ทำ เส้นจราจรคมชัด ทาสีใหม่-ล้างเส้นจางแบบมีระบบ
  • ติดตั้ง สัญญาณไฟจราจรแบบ AI ปรับอัตโนมัติ
  • พัฒนา พื้นที่สาธารณะปลอดภัย 24 ชม. (เช่น ป้ายรถเมล์ สวน)
  • ใช้หลัก ออกแบบเมืองเพื่อความปลอดภัย แสงสว่าง กล้อง ทางหนีไฟ
  • มีรถสาธารณะบริการในช่วงกลางคืน ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ และปัญหาดื่มแล้วขับ

เมืองสะอาดดี

- โปร่งใส-แก้ได้จริง

แจ้งง่าย แก้ไว ไม่ทิ้งเรื่อง

  • ยกระดับระบบ Traffy Fondue ให้แจ้งแล้ว “เห็นผลจริง”
  • ปฏิรูปการ แยกขยะต้นทาง ด้วยถัง/ถุงแยกที่ใช้ง่าย
  • ทำระบบ เก็บขยะรายวันชัดเจน แจ้งเตือนได้
  • บริหารห้องน้ำ-สวน-ตลาด แบบ ดูแลมืออาชีพ
  • เปิด ข้อมูลงบประมาณโปร่งใส มี Open Data พร้อมระบบร่วมจัดลำดับความสำคัญ

เมืองที่มีส่วนร่วมดี

- รับฟัง ไม่ใช่สั่งการ

“ฟังทุกเสียง เดินไปด้วยกัน”

  • เปิด สภาประชาชนเมืองให้มีพื้นที่พูดที่มีผลจริง
  • ส่งเสริม เทศบาลเชิงรุก-ไม่รอปัญหามาเคาะประตู
  • สร้างระบบ งบแบบมีส่วนร่วม (PB) ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดทำงบประมาณ
  • ให้ประชาชนร่วมออกแบบ พื้นที่สาธารณะ / ระบบบริการ / ป้ายเมือง
  • พัฒนา ระบบ One Stop Service บริการประชาชนที่จุดเดียว ผ่านระบบออนไลน์ รวมงานร้องเรียน แจ้งเตือน ให้ข้อมูล และบริการงานทะเบียน

+1 พิเศษ

: เมืองที่รักสัตว์

  • ส่งเสริม ให้เกิดระบบลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงและไมโครซิป
  • สร้าง ศูนย์พักพิงชั่วคราวสุนัขจร แยกเพศ ทำหมัน ดูแลด้วยสัตวแพทย์ ร่วมกับปศุสัตว์ คณะสัตวแพทย์ และ ภาคประชาชน
  • ผลักดันให้เกิด กองทุนรักษาสุนัข-แมว สำหรับเคสฉุกเฉิน
  • จัดระบบ ให้อาหารสัตว์จรอย่างมีวินัย ปลอดภัยต่อชุมชน
  • ส่งเสริมการ รับเลี้ยง-หาบ้าน
  • พื้นที่สวนสาธารณะต้องมี Pet Park โซนสัตว์เลี้ยงอย่างเป็นระเบียบ

** นโยบายทั้งหมดจะดำเนินการภายใต้อำนาจหน้าที่ของเทศบาลเท่านั้น **

ถาม/ตอบ

A:
ผมเป็นคนขอนแก่นโดยกำเนิด เติบโตมากับเมืองนี้ เห็นทั้งจุดแข็งและปัญหาของเมืองในทุกยุคสมัย ผมเชื่อว่าเมืองนี้ยังมีโอกาสพัฒนาได้อีกมาก ผมเริ่มต้นจากการทำธุรกิจของตัวเองและเป็นวิศวกรที่ปรึกษา ก่อนเข้าสู่การเมืองท้องถิ่นในฐานะสมาชิกสภาเทศบาล และได้ทำงานในตำแหน่งรองนายกฯ รวมกว่า 12 ปี ผมอยู่ในพื้นที่มาตลอด เจอชาวบ้านทุกวัน รับฟังปัญหาจริง ๆ และพยายามแก้ด้วยวิธีที่จับต้องได้

 A:
การทำงานกับเมืองมา 12 ปี ทำให้มั่นใจว่ามันถึงเวลาแล้วครับ ที่ขอนแก่นจะมีผู้บริหารที่เข้าใจเมืองอย่างแท้จริง ผมเห็นปัญหาหลายอย่างสะสมมายาวนาน และรู้ว่าบางเรื่องไม่ได้ยากเกินแก้ ถ้าเราทำงานกันแบบมืออาชีพ และไม่ติดขัดเพราะความขัดแย้งทางการเมือง ผมลงสมัครในนามอิสระ เพราะอยากให้เมืองนี้ “เดินหน้าได้จริง” ไม่ใช่ติดหล่มกับเกมการเมือง หรือเปลี่ยนคนแล้วต้องเริ่มใหม่ทุกครั้ง ผมไม่ได้มาเพื่อล้างกระดาน แต่มาเพื่อทำต่อในสิ่งที่ควรทำ และเริ่มสิ่งใหม่ที่จำเป็นต้องเริ่ม

 A:
ผมมีทีมงานมืออาชีพครับ เป็นทีมที่เติบโตมาด้วยกันในขอนแก่น บางคนเป็นคนรุ่นใหม่ บางคนเป็นภาควิชาการ บางคนทำงานภาคประชาสังคม บางคนทำงานราชการเกษียณมาแล้ว แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกันคือ “เรารู้ว่าปัญหาของเมืองอยู่ตรงไหน และอยากแก้ด้วยวิธีที่จริงจัง” ผมเลือกลงในนามอิสระเพราะผมไม่อยากให้คนเลือกผมเพราะพรรค ผมอยากให้คนดูที่ตัวผม ดูที่ผลงาน และวิธีคิดของผม ผมพร้อมทำงานกับทุกฝ่าย เพราะผมมองว่าเมืองคือของคนทั้งเมือง ไม่ใช่ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

A:
งานหลายเรื่องที่ผมภูมิใจเป็นงานที่กระทบชีวิตคนจริง ๆ เช่น ผมร่วมเป็นทีมงานในการบริหารจัดการฉีดวัคซีนโควิดให้ประชาชน 55,000 คน ภายใน 3 เดือน ตอนนั้นเราใช้ระบบจองออนไลน์ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงบริการได้รวดเร็วและปลอดภัย ผมยังเป็นคณะอนุกรรมการในการขับเคลื่อนด้านสุขภาพชมชน อนุมัติโครงการเล็ก ๆ อย่างการดูแลผู้สูงอายุ ป้องกันไข้เลือดออก หรือจัดกิจกรรมดูแลสายตาเด็ก ๆ – สิ่งเหล่านี้มันอาจไม่ขึ้นหน้า 1 หนังสือพิมพ์ แต่ผมเห็นรอยยิ้มของคนในชุมชน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมยังอยู่ตรงนี้ นอกจากนี้ ผมยังเป็นคนผลักดันพิพิธภัณฑ์เมืองแบบใหม่ ที่ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมออกแบบตั้งแต่ต้น และสนับสนุนเรื่องการศึกษาระดับเทศบาล เช่น การจัดการศึกษาแบบ Cluster Management และโรงเรียนสาธิตเทศบาลที่เพิ่งเปิดดำเนินการได้ไม่นาน

A:
ผมจบวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมจาก ม.ขอนแก่น แล้วเรียนต่อ MBA ด้านการจัดการที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน และยังผ่านหลักสูตรผู้นำยุคใหม่จากสถาบันพระปกเกล้าด้วย ความรู้ที่ผมได้รับไม่ได้ทำให้ผมเป็นคนเก่งที่สุดในห้อง — แต่มันทำให้ผมเป็นคนที่ “ตั้งคำถามกับปัญหาให้ถูก” และ “วางแผนแก้ปัญหาให้ตรง” ผมคิดเป็นระบบแบบวิศวกร และจัดการงานแบบนักบริหาร นี่คือสิ่งที่ผมนำมาใช้ในการทำงานกับเมืองจริง ๆ ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา

A:
ผมเชื่อว่าการเมืองที่ดี คือการเมืองที่ให้คนธรรมดาใช้ชีวิตได้ดีขึ้น และผมเชื่อว่าการกระจายอำนาจไปที่พื้นที่ คือหัวใจของประชาธิปไตยในทางปฏิบัติ เมืองแบบขอนแก่นต้องบริหารด้วยข้อมูล ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่การฟังในเวทีเดียวแล้วจบ
หลักการทำงานของผมคือ “ฟังให้ลึก คิดให้รอบ ทำให้จริง” ทุกนโยบายที่ผมเสนอ ต้องตอบโจทย์จริง ไม่ใช่แค่ดีในกระดาษ ผมไม่ชอบพูดอะไรที่เกินจริง เพราะสุดท้ายคนจำไม่ได้ว่าเราพูดอะไร แต่เขาจำได้ว่าเราเคยทำอะไรให้เขาหรือเปล่า

A:
ผมอยากให้ขอนแก่นกลายเป็นเมืองที่ “เดินได้ ขับได้ ใช้ชีวิตได้” — มีระบบขนส่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น มีการศึกษาเทียบเท่ามาตรฐานสากล มีบริการสาธารณสุขที่เข้าถึงทุกกลุ่ม
และที่สำคัญคือเป็นเมืองที่ “มีหวัง มีอนาคต” คนรุ่นใหม่ไม่ต้องย้ายออกไปทำงานที่กรุงเทพฯ พ่อค้าแม่ค้ารู้ว่าระบบมันสนับสนุนให้เขาทำมาหากินได้ ถ้าได้เป็นนายกฯ ผมไม่สัญญาว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนทันที แต่ผมสัญญาว่าผมจะเริ่มต้นทุกอย่างที่ควรเริ่ม และทำให้ดีที่สุดเท่าที่ความรู้และประสบการณ์ของผมจะพาไปได้

A:
ขอนแก่นเป็นเมืองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงมากครับ ถ้าเรามองลึก ๆ จะเห็นว่ามีทั้งภาคการศึกษา การแพทย์ โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว รวมถึงงานสร้างสรรค์ แต่ที่ผ่านมาหลายอย่างยัง “ไม่ถูกเชื่อมโยงให้เป็นระบบ”
ผมมองว่า ถ้าเราอยากสร้างงานให้คนรุ่นใหม่ มีรายได้ให้คนทุกกลุ่ม เราต้องวางเมืองให้ชัดเจนว่าเราจะโตด้านไหน และทำให้โครงสร้างพื้นฐานของเทศบาล “พร้อมรองรับ”

ตัวอย่างเช่น

  • ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสตาร์ทอัพ โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและกลุ่มนักพัฒนาท้องถิ่น ตั้ง Innovation Hub ที่ใช้พื้นที่ว่างในเมืองให้เป็นแหล่งรวมคนมีไอเดีย มีทุน และมีตลาด
  • ดึงงาน MICE และกิจกรรมเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น งานประชุม-สัมมนา งานวิ่ง งานดนตรี งานออกแบบ ให้เกิดในเมือง เพราะการดึงงานหนึ่งงาน เท่ากับดึงคน กิน พัก ซื้อ ใช้
  • สนับสนุนเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายเล็ก โดยเฉพาะแม่ค้าออนไลน์ คนทำงานฝีมือ ช่างบริการ ให้มีระบบฝึกอบรมที่จับต้องได้ และสนับสนุนพื้นที่ขาย เช่น “ตลาดสร้างอาชีพ” ที่ออกแบบร่วมกับคนในพื้นที่จริง ๆ
  • ใช้ข้อมูล GMP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมเทศบาล) ที่เราเคยจัดทำไว้ มาวิเคราะห์ว่าแต่ละเขตควรเน้นอุตสาหกรรมไหน เพื่อการวางงบประมาณและการพัฒนาแบบเฉพาะจุด ไม่ใช้สูตรเดียวทั้งเมือง

สุดท้าย ผมอยากให้ขอนแก่นเป็น “เมืองที่คนไม่ต้องย้ายออกไปหางาน” แต่กลับเป็นเมืองที่คนอยากย้ายเข้ามา เพราะมีโอกาส มีงาน และมีระบบสนับสนุนให้ทุกคนเติบโตได้จริง

A:
ถ้าได้ทำหน้าที่นายกฯ สิ่งที่ผมอยากทำทันทีใน 100 วันแรก ไม่ใช่แค่การประกาศนโยบาย แต่คือ “การจัดระเบียบระบบหลังบ้านของเทศบาล” และ “การลงมือทำเรื่องที่ประชาชนรออยู่แล้ว” ดังนี้ครับ:

  1. ปรับระบบการรับเรื่องร้องเรียนให้ทันสมัยและรวดเร็ว
  • เปิดระบบรับเรื่องออนไลน์ และเชื่อมเข้ากับ LINE Official
  • ตั้งทีม War Room ร่วมกับเจ้าหน้าที่และตัวแทนชุมชน เพื่อลงพื้นที่ภายใน 48 ชม.
    → จะไม่มีคำว่า “เรื่องหายเข้าระบบ” อีกต่อไป
  1. เริ่มโครงการฟื้นฟูรถสองแถวขอนแก่นทันที
  • จัดเวทีร่วมกับคนขับรถสองแถว ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน เพื่อวางแผนการปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ
  • เริ่มทดลองเส้นทางใหม่ + ผลักดันให้เกิดระบบตั๋วร่วม
    → ภายใน 100 วัน จะเห็นรถต้นแบบและเส้นทางทดลอง
  1. เปิดพื้นที่ขายราคาถูกให้พ่อค้าแม่ค้า
  • คัดเลือกพื้นที่เทศบาลที่ใช้ไม่เต็มศักยภาพ มาทำเป็น “ตลาดสร้างอาชีพ”
  • จัดสรรล็อกให้คนเริ่มต้นธุรกิจโดย เริ่มต้นทำธุรกิจ ในราคา/ต้นทุน ที่ประหยัด เหมาะสม
    → เพื่อบรรเทาภาระคนที่เดือดร้อน และให้โอกาสคนลุกขึ้นมาเริ่มต้นใหม่
  1. ประกาศแนวทาง “งบโปร่งใส” และตั้งคณะติดตามงบแบบมีส่วนร่วม
  • ทำให้ประชาชนเห็นทุกขั้นตอน ตั้งแต่งบลงทุนก้อนใหญ่ จนถึงรายการจัดซื้อของหน่วยงานย่อย
    → เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ว่างบประมาณเทศบาลเป็นของประชาชนทุกคน
  1. ประชุมใหญ่ทุกสำนักงานภายในเทศบาล เพื่อจัดทัพใหม่

จัดระบบให้แต่ละฝ่ายทำงานประสานกันได้จริง และเริ่มปรับทีมปฏิบัติงานให้ตอบโจทย์เชิงพื้นที่มากขึ้น
→ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวนายกฯ แล้วทีมเดิมทำเหมือนเดิม แต่จะทำให้ “เครื่องจักรทั้งองค์กร” เคลื่อนไปด้วยกัน

A:

ผมอยากบอกว่าผมรู้ว่าเมืองนี้มีศักยภาพมากกว่านี้ และผมเชื่อว่าพวกเราทุกคนก็รู้เหมือนกัน ถ้าทุกคนเบื่อกับการเมืองแบบเดิม ๆ เบื่อกับการเลือกฝั่ง เบื่อกับปัญหาที่วนกลับมาซ้ำ — ผมขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่อิงฝ่าย ไม่เล่นเกม และลงมือทำจริง

ผมไม่ใช่นักการเมืองหน้าใหม่ ไม่ใช่ทีมทุน ไม่ใช่ฝ่ายค้าน ผมเป็นคนขอนแก่นธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากเห็นบ้านของเราดีขึ้นอย่างเป็นระบบและยั่งยืน และผมเชื่อว่าเราทำได้ ถ้าเราเดินไปด้วยกัน

ประวัติ

วรินทร์ เอกบุรินทร์ (แนน)

ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น หมายเลข 3
Tagline: “พร้อมทำ เพื่อเมืองเดินหน้า”

“คนทำงานจริง จากขอนแก่น เพื่อขอนแก่น”

วรินทร์ เอกบุรินทร์ หรือ “แนน” เติบโตจากเมืองขอนแก่น และใช้เวลากว่า 12 ปีในการทำงานพัฒนาเมืองในฐานะสมาชิกสภาเทศบาลและรองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ผ่านประสบการณ์จริงใน

ทุกปัญหาหน้างาน ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน การจัดการขยะ น้ำท่วม สุขภาพ การศึกษา จนถึงงานบริการประชาชนเชิงระบบ

จบการศึกษาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น และปริญญาโท MBA ด้านการจัดการ พร้อมผ่านหลักสูตรผู้นำจากสถาบันพระปกเกล้า แนนจึงเป็นทั้ง “นักคิดระบบ” และ
“นักลงมือทำ” ที่เข้าใจเมืองอย่างลึกซึ้ง และทำงานได้จริงทุกระดับ

เขาเชื่อมั่นในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น การบริหารที่มีส่วนร่วม และการเมืองที่ไม่แบ่งขั้ว เพื่อ
พาเมืองเดินหน้า โดยไม่เอาประชาชนเป็นตัวประกันของเกมการเมือง

วันนี้ แนนขออาสา พาเมืองไปต่อในแบบที่ดีขึ้น เพื่ออนาคตขอนแก่นที่เราอยากอยู่ 
ด้วยการทำสิ่งที่ควรทำให้ต่อเนื่อง และเริ่มสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นจริง
“คิดแบบคนรุ่นใหม่ ทำได้แบบคนเข้าใจเมือง”